วันพฤหัสบดี , พฤศจิกายน 21 2024
Breaking News
You are here: Home / แนะนำองค์กร กลุ่มฯเบาะแส BFI

แนะนำองค์กร กลุ่มฯเบาะแส BFI

 

 

              กลุ่มฯ เบาะแสคือองค์กรที่ตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2541 เพื่อปกป้องความเป็นธรรมให้แก่ประชาชนในสังคมที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งใช้สมาชิกทั่วประเทศมากกว่า 50,000 คน เพื่อใช้สิทธิดำเนินการทางรัฐธรรมนูญ ในการใช้อำนาจถอดถอนข้าราชการระดับสูงและนักการเมืองที่มีตำแหน่ง กระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการคอร์รัปชันและต่อมาได้จัดตั้งเป็น “มูลนิธิเบาะแส” เมื่อปี พ.ศ. 2551 เพื่อช่วยเหลือ เด็ก สตรี คนชรา รวมทั้งผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในสังคม

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

INVESTIGATIVE  JOURNALISM ORGANIZATION

ความนำ

องค์กร ต่างๆ ทั่วไป  จะมีทั้งการให้บริการโดยคิดค่าบริการ และที่ให้บริการโดยไม่คิดค่าบริการ   กลุ่มฯ เบาะแส   ที่เราจะแนะนำในครั้งนี้  หมายถึงกลุ่มผู้สื่อข่าว , กลุ่มผู้ที่ช่วยเหลือผู้เดือดร้อนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม  ในส่วนที่ภาครัฐไม่สามารถช่วยเหลือได้  จึงนับได้ว่า  กลุ่มสื่อมวลชนเชิงสืบสวนสอบสวน ( Investigative Journalism )  ซึ่งใช้ชื่อว่า  เบาะแส   ( The Clue )  เป็นสื่ออีกแขนงหนึ่ง ซึ่งรวมทั้งสื่อหนังสือพิมพ์  สื่อวิทยุโทรทัศน์  สื่อวิทยุกระจายเสียง สื่ออินเทอร์เน็ต และสื่อบุคคล  ไว้ในองค์กรเดียวกัน  ทั้งยังคงมีสถานสภาพที่ถาวรและรักษาสภาพได้อย่างยาวนาน  มาเป็นเวลามากกว่า 22 ปี  เนื่องจากมีหลักการบริหารที่ประยุกต์  เอาทั้งหลักการปกครอง หลักการสื่อสารและหลักจิตวิทยา  นำมาใช้ในการดำเนินการทุกๆ ส่วน ซึ่งหมายถึงการทำงานโดยไม่ต้องใช้เงินทุนแต่สามารถอยู่ได้ตลอดไปอย่างยั่งยืน

ดังนั้นข้อมูลต่างๆในเอกสารนี้  น่าจะมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน ได้ในระดับดีพอสมควรแก่การศึกษา  เนื่องจากผู้จัดทำได้ตั้งใจเรียบเรียงเนื้อหาและให้เข้าใจง่ายต่อการอ่าน  การศึกษาและการทำความเข้าใจ /.

เสกสรรณ  ประเสริฐ

ผู้จัดทำ

กุมภาพันธ์  2563

 

 

 

 

 

 

 

 

บริการสื่อเพื่อการศึกษา ของกลุ่มฯเบาะแส   

การบริการสื่อเพื่อการศึกษาที่มอบให้แก่ประชาชนทั่วไปนั้น  มีหัวใจสำคัญอยู่ที่ นายเสกสรรณประเสริฐ  ผู้อำนวยการองค์กรสืบสวนเบาะแส BFI , ประธานมูลนิธิเบาะแส , ผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์ เบาะแส , ประธานกลุ่มฯ เบาะแส  ซึ่งตั้งองค์กรขึ้น ตั้งแต่  ปี 2541  พร้อมกับการขานรับรัฐธรรมนูญ ฉบับปี  2540  โดยให้ความรู้แก่ประชาชน ในส่วนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ในภาวะที่ประชาชนขาดผู้นำที่ดีและขาดที่พึ่ง โดยความเป็นจริงคนไทยส่วนน้อยที่จะมีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายทั้งที่มีระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่กลุ่มฯ เบาะแสได้นำเรื่องที่ประชาชนร้องทุกข์และประสบมาขณะได้ให้การช่วยเหลือแล้วจึงนำมาเป็นแบบอย่างในการศึกษาให้ความรู้ แก่ประชาชนคนอื่นๆ

 

ความเป็นมาของ  กลุ่มฯเบาะแส

กลุ่มฯ เบาะแส คือ  กลุ่มคนที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคม ในส่วนที่รัฐไม่สามารถทำได้ เพราะมีระบบอุปถัมภ์  ตั้งขึ้นเมื่อต้นปี 2541  พร้อมกับการขานรับรัฐธรรมนูญฉบับ ปี  2540  ซึ่งใช้สิทธิของประชาชนรวมตัวกันตั้งแต่  50,000  คน สามารถถอดถอน ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และนักการเมืองที่คดโกง คอร์รัปชัน   (มาตรา 303  ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภาประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด หรืออัยการสูงสุด ผู้ใดมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย วุฒิสภามีอำนาจถอดถอนผู้นั้นออกจากตำแหน่งได้บทบัญญัติวรรคหนึ่งให้ใช้บังคับกับผู้ดำรงตำแหน่งดังต่อไปนี้ด้วย คือ (1) กรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (2) ผู้พิพากษาหรือตุลาการ พนักงานอัยการ หรือผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง  ทั้งนี้ ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 304  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร หรือประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่าห้าหมื่นคน มีสิทธิเข้าชื่อร้องขอต่อประธานวุฒิสภาเพื่อให้วุฒิสภามีมติตามมาตรา 307 ให้ถอดถอนบุคคลตามมาตรา 303 ออกจากตำแหน่งได้   คำร้องขอดังกล่าวต้องระบุพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่าผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวกระทำความผิดเป็นข้อ ๆ ให้ชัดเจน )

สมาชิกกลุ่มเบาะแสประกอบด้วย    ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักการเมือง นักบวช นิสิต นักศึกษา ยาจก ขอทาน คนพิการ

กลุ่มฯ เบาะแส ใช้                สื่อสารมวลชนและสื่อมวลชน  เป็นเครื่องมือในการทำงาน เพื่อรายงานผลงานของกลุ่มฯ และเผยแพร่ความรู้แก่ประชาชน  เช่น

                          1.หนังสือพิมพ์ เบาะแส

                          2.วิทยุสื่อสาร V.R. , วิทยุสื่อสาร ประชาชน CB  245  MHZ.

                          3.สถานีวิทยุชุมชน เบาะแส  Radio ทั่วประเทศ

                          4.รายการโทรทัศน์ เบาะแส ทางอินเทอร์เน็ต  http://www.youtube.com   

                           5.อินเทอร์เน็ต   http://www.borsae.org https://www.facebook.com/drseksonnaprasert

                           6.สื่อบุคคล

กลุ่มฯ เบาะแส ใช้    ความเป็นผู้ที่ผ่านเหตุการณ์จริงที่ไม่เกิดประโยชน์  ทำให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม  ( พลิกผู้ร้าย-กลายเป็นผู้ดี )   ปัจจุบันเข้าร่วม  กลุ่มฯเบาะแส มากกว่าร้อยละ 70

กลุ่มฯ เบาะแส เสริมสร้าง    ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ให้ทำงานได้เป็นเอกเทศ เฉพาะส่วนที่ถูกกดขี่  ข่มเหงจากผู้บังคับบัญชา เพื่อให้ปราศจากการคอรัปชัน เชิงนโยบายและส่วนตัว

กลุ่มฯ เบาะแส สร้าง    ความรู้ ความเข้าใจ และสร้างอำนาจที่แท้จริง ให้แก่ประชาชนทั่วไป ตามรัฐธรรมนูญ  ด้วยเราใช้สมาชิกมากกว่า 50,000 คน   โดยปราศจากสิ่งตอบแทน  เพื่อผลวันหนึ่งข้างหน้าที่ผ่องใสทั้งกายและใจของประชาชน  โดยมุ่งหวังเพื่อ….ลูกหลานไทย ทั้งชาติ….. กินดีอยู่ดี

กลุ่มฯ เบาะแส ยึดถือหลักที่ว่า “ มิได้มุ่งหวังทางการเมือง  แต่…หวังให้คนไทยทั้งชาติ..กินดี..อยู่ดี ”

กลุ่มฯ เบาะแส ใช้    กฎหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นๆ  ดูแลความเป็นธรรม โดยร่วมกับอำนาจที่ กลุ่มฯ เบาะแส มีอยู่

กลุ่มฯ เบาะแส  มี    สมาชิกองค์กร อยู่ทั่วทุกภาค ทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ทุกตำบล  โดยใช้สมาชิกไม่น้อยกว่าตำบลละ 25 คน เพื่อใกล้ชิดประชาชนและชี้นำแนวทางที่ถูกต้อง โดยให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ

กลุ่มฯ เบาะแส ทุกคน ต้องผ่านการปฏิญาณตน    กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ทุกคนนับถือก่อนที่จะปฏิบัติหน้าที่เป็นสมาชิกกลุ่มฯ เบาะแส

กลุ่มฯ เบาะแส สร้างทีมงาน  เบาะแส โดยคัดเลือกจากผู้ที่มีอาชีพ มีรายได้โดยสุจริต เพื่อเป็นทีมงานกลุ่มฯเบาะแส  ซึ่งเป็นการสกัด การคอร์รัปชัน หรือการหาประโยชน์ โดยบุคคลในองค์กร

กลุ่มฯ เบาะแส ไม่รับค่าจ้าง    ในการทำงาน แต่จะรับเฉพาะที่มีผู้บริจาคเท่านั้น

ทีมงานเบาะแส กระทำผิด    บทลงโทษ    คือ     คุก    กับ       ตาย

กลุ่มฯเบาะแส มีวัตถุประสงค์       ดังนี้

  1. ตีแผ่ความไม่เป็นธรรมในสังคม เพื่อให้องค์กรรวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน รับรู้ และแก้ไขปัญหา
  2. เผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสาร จากภาครัฐสู่สาธารณชน
  3. เสริมสร้างขวัญ และกำลังใจ ให้กับบุคคลที่ทำประโยชน์ แก่สังคม
  4. สนับสนุนประชาชนทั่วไป ให้เป็นหูเป็นตา แทนหน่วยงานของรัฐ เพื่อสร้างความสงบสุข และความปลอดภัย
  5. เป็นสื่อกลาง ให้ความช่วยเหลือ แก่ผู้ที่เดือดร้อน และด้อยโอกาส
  6. เพื่อประสานประโยชน์ทางธุรกิจร่วมกัน

กลุ่มเป้าหมายสมาชิก    กลุ่มฯ เบาะแส

1.ประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในสังคม

2.องค์กร บริษัท หน่วยงาน รวมทั้งห้างร้านต่างๆ ที่ถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลข่มขู่ และแสวงหาผลประโยชน์ โดยผิดต่อกฎหมาย

3.นักข่าวที่ไม่กล้านำเสนอข่าว หรือแจ้งเบาะแสที่พบเห็น  เนื่องจากเกรงกลัวภัยมืด ของกลุ่มผู้มีอิทธิพล

4.กลุ่มบุคคลทั่วไปผู้มีอุดมการณ์เดียวกัน ร่วมมือกันต่อต้านพฤติกรรมอันผิดต่อกฎหมายของกลุ่มที่มีอิทธิพลที่แสวงหาผลประโยชน์

5.ข้าราชการที่ถูกบีบบังคับ และข่มขู่ให้ต้องรับ ส่วย ฮั้วประมูล และคอร์รัปชัน จากกลุ่มผู้มีอิทธิพล

นโยบาย

1.ให้ประเทศชาติ ปราศจาก ส่วย ฮั้ว คอร์รัปชัน และธุรกิจที่ผิดกฎหมาย

2.ขจัดกลุ่มบุคคลผู้ทุจริต และ คอร์รัปชัน ให้หมดไปจากสังคมไทย

3.เสริมสร้าง สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค ให้เกิดขึ้นกับทุกกลุ่มบุคคล องค์กรโดยเท่าเทียมกัน

4.ส่งเสริมและดำรงไว้ซึ่งบุคคลผู้มีความซื่อสัตย์ สุจริต และประพฤติตนอันเป็นประโยชน์ ต่อสังคม ส่วนรวม

5.ให้เกิดความมั่นคงของประเทศ และความสงบสุขของประชาชนโดยทั่วถึงกัน

ข้อควรสำนึกของกลุ่มฯเบาะแส

“  เรามีองค์กรเพื่อประชาชนทุกคน เราทุกคนที่เป็นสมาชิกองค์กรกลุ่มฯ เบาะแส ล้วนแต่ทำงานเพื่อประเทศชาติเพื่อสังคมทั้งนั้น เราต้องเข้าถึงมวลชนให้มากที่สุด ต้องรู้ถึงความต้องการของประชาชน ช่วยเหลือชาวบ้าน เป็นกระบอกเสียงแทนชาวบ้านที่เขาเดือดร้อน เสนอข้อมูลหรือข่าวอย่างมีจรรยาบรรณและตามข้อเท็จจริง มีความรับผิดชอบต่อสังคม สื่อมวลชนจริงๆ แล้วมีอำนาจมากแต่เราต้องใช้ให้ถูกต้อง ”

ปรัชญาในการทำงานของผู้นำกลุ่มฯเบาะแส

“ การทำงานทุกวันนี้ ผมต้องเจออะไรมากมาย ทั้งดี และร้าย เจอกับคนที่รู้หน้าแต่ไม่รู้ใจมากมาย เพราะงานที่ทำ จึงทำให้ผมต้องระวังตัวมากเป็นพิเศษ  ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดในการทำงานของผม ก็คือ เราต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา ไม่ประมาท แม้แต่วินาทีเดียว ถามว่า   มัน Over  มากไปรึเปล่า ผมว่า ไม่นะ ถ้าผมไม่ทำอย่างนี้ ตอนนี้ผมอาจจะไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ก็ได้   มันคงไม่ใช่แค่งานนี้อย่างนี้อย่างเดียวผมว่า  ไม่ว่าเราจะทำงานอะไรก็ตาม ถ้าเราไม่ประมาท และมีสติอยู่ตลอดเวลา เราก็จะไม่ทำอะไรที่ผิดพลาดและไม่มานั่งเสียใจในการกระทำของตัวเองภายหลัง และอีกอย่างหนึ่งที่ผมยึดถืออยู่ตลอดเวลาและมักจะสอนคนอื่นๆอยู่เสมอว่า   เวลาที่เราทำอะไรถ้าทำในสิ่งที่ดีแล้ว เราไม่ควรหวังอะไร  คนที่หวังจะไม่ได้ในสิ่งที่ตนเองหวัง แต่กลับกัน คนที่ไม่ได้หวังเมื่อทำความดีแล้ว มักจะได้ในสิ่งที่หวัง และอาจจะได้มากมายกว่าสิ่งที่หวังไว้   ผมเชื่อว่ามีหลายคนที่คิดอยากจะทำความดี ทำตัวเป็นคนดี แต่มักจะท้อแท้กลางคัน เพราะเขามักจะคิดว่า  ทำดี-ไม่ได้ดี ”

Philosophy in the work of the leader of  Bor-sae  [The clue]

In my everyday work I meet many things, both good and evil. Because of my line of work, I meet   many people who like being in the spotlight but don’t care   about the heart of the matter. I must be especially cautious.

And because of this, the most important thing for me   in my work is to always be conscious. Never underestimate, not even for a second. You might ask, ‘Isn’t that overboard;    too much?’ I say ‘No!’ If I had not done like this I might not be     standing where I am today. But it’s not only a job like mine     that is like this I think.  No matter what kind of work we do, if we do not underestimate and always remain conscious, we will not make mistakes or become disheartened. Looking back over the things I’ve experienced and something that I hold to and am inclined to teach others: when we’ve done something, and done it well, we must not expect anything. People that expect something in return will not receive that for which they hoped for. And vise-versa. For a person that does not expect anything, when they have done good they just might receive what was unexpected and much more. I believe there are many people who want to do good. They act good but then get discouraged midway, thinking that doing good doesn’t bring good.

 

ผลงานเด่นที่ผ่านมา ของกลุ่มฯเบาะแส

ปี 2544    ฮือฮา…กับการปิดบ่อนเจ้าพ่อ…คนดังเมืองพิจิตรจนถูกวางแผนเก็บ….? (ไม่ตาย)

ปี 2546    ล้างมาเฟียเกาหลีพัทยา, สุขุมวิท,สาทร และรัชดาฯ มีคนมีสีเป็นแบ็ค …จนถูกสั่งฆ่า ค่าหัว ๑ ล้าน…? (คนรับงานไม่กล้าลงมือ คืนงาน)

ต้นปี 2547   ล้างผู้ขายรถยนต์ใหม่……ป้ายแดงเถื่อน….???

ปี 2547   จัดระเบียบสถานบริการ ล้าง…การค้าประเวณีเพื่อคืนศักดิ์ศรีให้สตรีไทย….? เสธฯ.อ… เดือดร้อนไปหาแม่ชี….คนดังอยุธยาให้ช่วย….แต่โดนกระชากร่วงทั้งสองคน..?

ปี 2547   เอาที่ดินจากผู้ยิ่งใหญ่ นครปฐม คืนให้ชาวนครชัยศรี ชาวบ้าน เฮ..เหมือนพระ…มาโปรด..? ( มีการตาย ๑ ศพ )

ตุลาคม 2547  ผลงาน ล้างวัดโสธร..โค่นเจ้าพ่อแปดริ้ว……?  ดังกระฉ่อนตามคำเรียกร้องของลูกศิษย์….หลวงพ่อพุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าอาวาสจึงทำหนังสือ เชิญเข้าไป เป็นประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์วัดโสธรฯและได้เรียกประชุมคณะกรรมการที่มีทั้งผู้ว่าฯ ,นักการเมือง , ตำรวจ , ทหาร , อัยการ , ผู้ยิ่งใหญ่ในพื้นที่ นอกพื้นที่ เพื่อลงมือล้าง กลุ่มมาเฟีย ที่มีการโกงกิน มาประมาณสามสิบปี ที่ใครๆ ก็จัดการไม่ได้ (ออกรายการ ทีวี ถึงลูก-ถึงคน คุณสรยุทธ์ , รายการ คม ชัด ลึก , ช่อง 11 และขึ้นหน้า 1 หน้า 2 หนังสือพิมพ์หลายฉบับ เช่น คม ชัด ลึก และอีกหลายต่อหลายรายการทีวีจนถึงปี  48 ทั้งปีจบงานที่ปี 50 (คนเลวร่วง)

ปลายปี 2547   เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ…กับผลงานชิ้นโบว์แดง…..ที่สะเทือนทั้งประเทศ ……ปั่นป่วนกันทุกสี…. ผลงาน กระชากหน้ากากแม่ชีคนดังอยุธยา…แอบอ้างเบื้องสูงหาประโยชน์ (แม่ชีเบญจวรรณ เสมาชัย วัดพระญาติการาม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา)  ดังกระหึ่มไปทั่วทุกวงการ จนในที่สุด รายการ คม ชัด ลึก ที่ออกอากาศทาง เดอะเนชั่นชันแนล เชิญไปปะทะคารมกับแม่ชีเบญจวรรณ เสมาชัย  ชนิดคำต่อคำ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ใครจะอยู่ ใครจะไป จนเป็นที่มาของ คดีหมิ่นรัชทายาท ที่มีการจับกุมเมื่อ 6 ก.ค. 2548 เวลา 10.00 น. ตลึง..!  ทั้งประเทศ อยากรู้ ถามคุณชูวิทย์ และเสธฯ แดง หลายผลงานนี้ไม่รู้งานไหน ผอ.เบาะแส ถูกสั่งฆ่า ค่าหัว 10 ล้าน แต่ยิงไม่ได้ ในที่สุดคนสั่งรับกรรมตามระเบียบ ไม่คุกก็ตาย…?

ต้นปี 2548    สะเทือนทั้งวงการ รถตู้ และเกี่ยวข้อง เสธ.ทหาร กับผลงาน โค่นนาย… มาเฟียรถตู้ รังสิต….และ อีกหลายเรื่องมากมาย… ที่เป็นผลงานที่คนทุกสังคมยอมรับ …กับการที่เบาะแสได้ ช่วยเหลือผู้ที่ ถูกรังแก ถูกโกง… ถูกโยนให้เป็นแพะ…รับบาป…โพรงมะเดื่อ..? (แพะ…รอด) รถชน…บริษัทประกันภัยไม่จ่ายค่าสินไหม…โดนข้าราชการ….ทหาร…ตำรวจ…นักการเมือง…มาเฟีย…รังแกด้วยความไม่เป็นธรรม… ทุกคนที่ได้รับการช่วยเหลือต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่า  “ ผอ.เสกสรร เป็นคนจริง ”  อะไร…ที่คนอื่นทำไม่ได้ แต่…ผอ.เบาะแส…ทำได้…???

25 พ.ย. 2551    กลุ่มฯเบาะแส ชนะคดี มาเฟียรถตู้ ณ ศาลจังหวัดธัญบุรี และคดีแม่ชีที่อ้างเป็นแม่นมเบื้องสูงในที่สุดแม่ชีฯ  ได้รับโทษจำคุก  3  ปี  ณ ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและชั้นศาลอุทธรณ์/.

ปลายปี  2552   กลุ่มมาเฟียรถตู้ จ่ายภาษีให้กรมสรรพากรหลัก…ล้านบาท โดยฝีมือ ผอ.เบาะแส ..ยังมีภาษีรอเก็บเข้ารัฐอีกหลายร้อยล้าน

6 ส.ค.2553   ผอ.เบาะแส  เก็บภาษีศุลกากรจากเรือเดินทะเลต่างประเทศเถื่อน….กว่า  2  ล้านบาท

ต.ค. 2554     ลงพื้นที่จัดการขบวนการอั้งยี่ กะเหรี่ยง พม่า แม่สอด (วัดป่าเก่า) ค้ามนุษย์ ค้าแรงงานเถื่อนโดยใช้ศาสนาบังหน้า

มิ.ย.2555    ผอ.เบาะแส ชนะคดี  บริษัท มีสทีนฯ จากกรณีสาวมีสทีนถูกรังแกด้วยความไม่เป็นธรรมเข้าขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิเบาะแส

ก.พ. 2556   ลงพื้นที่ปราบ…ขบวนการมหาวิทยาลัยเถื่อน (มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก) หลอกประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการทำลายระบบการศึกษาไทย….?  ( ผอ.เบาะแส เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษในคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษที่ 145/2556  ต่อมาแยกเป็นคดีพิเศษจำนวน 3 คดี  ขณะนี้สั่งฟ้องแล้ว )

ก.ค.2557  ร้อง  คสช. ให้ปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์  ค้าประเวณี ใน อาบ อบ นวด ทั่วประเทศ

 

ต้องการร่วมเป็นทีมงาน      กลุ่มฯ เบาะแส  เพื่อปกป้องตนเองและครอบครัวให้พ้นจากความไม่เป็นธรรม ติดต่อ e-mail : seksonborsae@gmail.com                 หรือพบข้อมูลได้ใน

https://borsae.org ,http://sekson-borsae.blogspot.com  , http://www.facebook.com/#!/profile.php?id=100000084028120

 

  เครื่องหมายประจำองค์กร

ตราชั่ง      หมายถึง  ความเที่ยงตรงหรือตงฉิน

วงข้าว    หมายถึง  การกินดี – อยู่ดี

มือจับกัน  หมายถึง  การให้รักกันเข้าใจกัน

 

Scale         =      The accuracy or upright.

Spike        =       To eat well – live well.

Handle     =      To love and understand each other.

 

Logo  หนังสือพิมพ์ เบาะแส

Philosophy in the work of the leader of Bor - sae  ( The clue )

http://www.facebook.com/#!/profile.php?id=100000084028120

ผู้นำกลุ่มฯ เบาะแส            ดร. เสกสรรณ     ประเสริฐ  [ Dr. Seksonna  prasert ]

ตำแหน่ง                                 

–  ผู้อำนวยการ หนังสือพิมพ์ เบาะแส  (ผู้ก่อตั้ง)

–  ประธานกลุ่มฯเบาะแส   (ผู้ก่อตั้ง)

–  ประธาน มูลนิธิ เบาะแส (ผู้ก่อตั้ง)

การศึกษา                    

–  นิเทศศาสตร์บัณฑิต สาขา การสื่อสารการเมืองบูรณาการ (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง)

–  นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการสื่อสาร Ma.[Communication Administration] 

-ปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต  สาขานิเทศศาสตร์นวัตกรรม                           

-สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูง การเสริมสร้างสังคมสันติสุข รุ่น ๖   ( ๔ ส. ๖ )

เกียรติประวัติที่ได้รับ              

–  แหนบรูปกระเป๋ากระสุนคันชีพเครื่องแบบเต็มยศทหาร  มหาดเล็กรักษาพระองค์  ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เมื่อ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๔๖

–  เข็มเครื่องหมายรูปกระเป๋าคันชีพเครื่องแบบเต็มยศ ทหารม้ารักษาพระองค์ ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๔๖

–  ได้รับเกียรติเป็นนักเหินเวหากิตติมศักดิ์ของ กองทัพอากาศ เมื่อ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๔๗

–   เป็นผู้ทรงคุณวุฒิมีศักดิ์และสิทธิในการประดับเครื่องหมายแสดงความสามารถนักทำลายใต้น้ำจู่โจมกิตติมศักดิ์  เมื่อ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๔

ความชำนาญพิเศษ

–   ด้าน นวัตกรรมข่าวสืบสวนสอบสวน และหลักธรรมาภิบาล

 

 โต๊ะนี้เพื่อ…..ปวงประชา…..???

 

 รถต้นแบบ ตระเวนข่าว และ ปฏิบัติการ

 

เสกสรร ประเสริฐ ได้รับมอบโล่ เกียรติยศจาก หัวหน้ามือปราบ เท็กซ์ซัส  U.S.A.   

( ลินเสซ์ อี.ศิริโก    Mr.Lindsay E.Siriko )

 

 

สำนักงานใหญ่ มูลนิธิ เบาะแส 

 

ลักษณะบริการและบทบาทหน้าที่เชิงการศึกษา

  • ให้ความรู้แก่ประชาชน ในเรื่อง กฎหมายทั่วไป ที่ใช้ใน ชีวิตประจำวัน กฎหมายที่ควรรู้ สำหรับอยู่ร่วมกันในสังคม
  • แนะนำวิธีการพร้อมร่วมต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมในกรณีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งเชิงปฏิบัติการและเชิงนโยบาย
  • หาข้อมูลหรือความรู้เพิ่มเติมต่างๆ ให้ประชาชนทั่วไปทราบ
  • ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมเมื่อมีการร้องทุกข์
  • ข้อมูลการศึกษาจะมีต่อเมื่อมีการลงพื้นที่ซึ่งเป็นเรื่องที่ต่างกันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ณ ขณะนั้น
  • ลงพื้นที่ปฏิบัติงานโดยให้ข้อมูลหรือความรู้ต่อชุมนุมชนหรือมวลชน มากกว่าให้มาศึกษา ณ ที่ทำการ
  • ให้ความรู้ ตอบสนองรัฐธรรมนูญ กรณีคนไทยต้องรู้กฎหมาย
  • กระทำตนเป็นเยี่ยงอย่างของสังคม

ผลงานด้านสังคม

 ผอ.เบาะแส รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการในการสัมมนาทางวิชาการ

 

 

 

 

ดร. สุทิน  ลี้ปิยะชาติ  วิทยากร และ ผอ.เสกสรร ประเสริฐ  ผู้ดำเนินรายการ

 

ผลงานช่วยเหลือผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม

ครอบครัวนายบุญชน รัตนะมั่นคงจิตร ร้องทุกข์ ถูกรถจักรยานยนต์ส่ง Pizza Hut ชนแขนหักขาดการดูแล  ช่วงแรก เมื่อ พนักงานสอบสวนรู้ว่า ผอ.เบาะแส ดูแลคดีนี้ ทุกอย่างดีเยี่ยมเกินคาด แต่ข้าราชการ คุมประพฤฒิ….บางคน บอกว่า ประกันภัย….. เขามีเงินมากกว่า สู้อย่างไร…เราก็ไม่ชนะ…..???   ให้ยอมเขา……???

สุดท้าย…ทนายความของ บริษัท ประกันภัย ฯ ต้องมา พบ ผอ.เบาะแส ที่ สำนักงาน  หนังสือพิมพ์ เบาะแส บริษัท M S I G ประกันภัยฯ จ่ายค่าสินไหมทดแทน
ด้วยความเป็นธรรมต่อครอบครัวนายบุญชนฯ
200,000 บาท

และ บริษัท มิตรแท้ ประกันภัย มอบให้ครอบครัวนายบุญชนฯอีก 50,000 บาท

ครอบครัว นายบุญชนฯได้รับค่าสินไหมชดเชยรวม  250,000 บาท

เข้าพบ ขอบคุณ ผอ.เบาะแส (เสกสรร ประเสริฐ)

ช่วยเหลือครอบครัว คุณเกวลิน มณีแดง และลูกสาว ให้ได้รับการเยียวยาจาก บริษัทประกันภัยและโรงพยาบาล 540,000 บาทกรณีสามีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุขาหัก ผ่าตัดเสียชีวิต

ผอ.เบาะแส  ช่วยเรียกเงินจากบริษัท ประกันภัยฯ เป็นค่ารักษากรณีขาหักใน

เขต อ.ธัญบุรี  จ.ปทุมธานี ๑๕๐,๐๐๐ บาท

ผอ.เสกสรรฯ ลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านนครชัยศรี จ.นครปฐม เอาที่ดินคืน

จากตระกูล  เจ้าพ่อนครปฐม

กลุ่มฯเบาะแสประชุมชาวบ้านสำนักทอง จ.ระยองกับ โรงงานปลาทูน่ากระป๋อง          เพื่อหาข้อยุติเรื่องชาวบ้านไม่เอา ถ่านหิน

 

นำข้าวสารอาหารแห้งช่วย น้ำท่วมที่ จังหวัดลพบุรี

 

 

 

 

 

เคลียร์ปัญหาให้ แม่-ลูก ปรองดองรักกันเข้าใจกัน ที่ จ.พิษณุโลก

รับร้องทุกข์จากชาวบ้านสายไหมต่อต้าน ห้างฯ ค้าปลีกต่างชาติ

ผอ.เสกสรร  รับเรื่องร้องทุกข์จากชาวมุสลิม กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ในปทุมธานี

นายเสกสรร ประเสริฐ ประธานมูลนิธิเบาะแส  เข้ายื่นหนังสือถึง หัวหน้า คสช. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายและปราบขบวนการค้ามนุษย์ , ค้าประเวณี ซึ่งมีมานานเกิน 10 ปี ในสถานบริการ อาบ อบ นวด ทั่วประเทศ พร้อมทั้งดำเนินคดีจนถึงที่สุด

ผลงานด้านวิชาการ

 

บรรยายพิเศษ ให้ความรู้ นายทหารชั้นผู้ใหญ่

ณ ค่ายเม็งรายมหาราช   จังหวัดทหารบกเชียงราย

บรรยายพิเศษ ให้ความรู้พิเศษ  นายทหารชั้นผู้ใหญ่   ณ จังหวัดทหารบกเชียงราย

บรรยายพิเศษ  โรงพยาบาล ยันฮี  ” พฤติกรรมบริการสู่ความเป็นเลิศ”

 

 

 

 

 

บรรยาย วิชาการสื่อสารการเมืองเปรียบเทียบ  นศ. 45308

 นักศึกษาสื่อสารการเมืองฯ  มหาวิทยาลัย เกริก

บรรยาย ” การบริหารการตลาดด้วยหลักธรรมาภิบาล ”  แก่ นักศึกษาสาขาวิชาการตลาด

วิทยาลัยเทคโนโลยี ไทยบริหารธุรกิจ ประมาณ ๓๐๐ คน ก่อนสำเร็จการศึกษา

บรรยายให้ความรู้เรื่อง  “ จิตสำนึกในการให้บริการสาธารณะ ของ กรมเจ้าท่า”

เมื่อ 14 มิถุนายน 2557

ผลงานปกป้องชาติ

ผลงานปกป้องชาติ  จาก ขบวนการโกงภาษีโดยนำจับเรือเดินทะเลบรรทุกน้ำมันเถื่อน สมุทรสาคร เก็บภาษีเข้ารัฐ   จำนวน  2,052,319 บาท  เมื่อ  ๖ ส. ค. ๒๕๕๓

 

 

 

 

เก็บภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่มจากเครือข่าย มาเฟียรถตู้….หลักล้าน

เรื่อง มาเฟียรถตู้…..???

ลงพื้นที่จัดการ ขบวนการ อั้งยี่แม่สอด จ.ตาก ค้ามนุษย์ใช้ศาสนาบังหน้า

ผลงานปกป้องศาสนา

ผลงานปกป้องศาสนา เช่น…..?? ปกป้อง หลวงพ่อ ดร. สิงห์ธน วัดวรเชตร์ อยุธยา
ผู้รักษา เจดีย์ เก็บอัฐิของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ผอ.เสกสรร เป็นประธานงานบุญทอดผ้าป่าสร้างทางขึ้นพระธาตุ กู่ผางลาง

และพบชาวบ้าน จ.พะเยา

ฉบับเด่นช่วง…งานล้างวัดโสธรฯโค่น..!เจ้าพ่อแปดริ้ว

ปราบมาเฟีย โกงเงิน…..วัดหลวงพ่อพุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา

ผลงานปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ แม่ชีเบญจวรรณ เสมาชัย วัดพระญาติการาม จังหวัดพระนครศรีอยุธยาแม่ชีฯคนดังอยุธยา ในคดีหมิ่นรัชทายาทถูกจับกุม     เมื่อวันที่      ๖ กรกฎาคม      ๒๕๔๘   ต้องโทษ จำคุก ๓ ปี ทั้งศาลจังหวัดอยุธยาและชั้นศาลอุทธรณ์ 

 

ออกรายการทีวี คม ชัด ลึก ก่อนจับแม่ชีฯอ้างเบื้องสูง

ร้องทุกข์กล่าวโทษกับกองบังคับการกองปราบฯ และกระทรวง  I C T.

ดำเนินคดี เวปไซต์ หมิ่นเบื้องสูง  มาโดยตลอด

ทฤษฎีที่นำมาใช้

  1. ทฤษฎีการสื่อสาร (Communication Theory)

การสื่อสาร  (Communication )  คือ  กระบวนการแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสารระหว่างบุคคลต่อบุคคลหรือบุคคลต่อกลุ่ม โดยใช้สัญลักษณ์ สัญญาณหรือพฤติกรรมที่เข้าใจกัน โดยมีองค์ประกอบดังนี้

 
 แผนภาพที่ 2.1 แสดง Model การสื่อสาร

ผู้ส่งสาร  คือ  ผู้ที่ทำหน้าที่ส่งข้อมูล สารไปยังผู้รับสารโดยผ่านช่องทางที่เรียกว่าสื่อ ถ้าหากเป็นการสื่อสารทางเดียวผู้ส่งจะทำหน้าที่ส่งเพียงประการเดียวแต่ถ้าเป็นการสื่อสาร 2 ทาง ผู้ส่งสารจะเป็นผู้รับในบางครั้งด้วย ผู้ส่งสารจะต้องมีทักษะในการสื่อสาร มีเจตคติต่อตนเอง ต่อเรื่องที่จะส่ง ต้องมีความรู้ในเนื้อหาที่จะส่งและอยู่ในระบบสังคมเดียวกับผู้รับก็จะทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพ

ข่าวสารในการะบวนการติดต่อสื่อสารก็มีความสำคัญ ข่าวสารที่ดีต้องแปลเป็นรหัส เพื่อสะดวกในการส่งการรับและตีความเนื้อหาสารของสารและการจัดสารก็จะต้องทำให้การสื่อความหมายง่ายขึ้น

สื่อหรือช่องทางในการรับสาร  คือ ประสาทสัมผัสทั้งห้า คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกายสัมผัส และตัวกลางที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเช่น สิ่งพิมพ์ กราฟิก สื่ออีเลกทรอนิกส์

ผู้รับสาร  คือ  ผู้ที่เป็นเป้าหมายของผู้ส่งสาร การสื่อสารจะมีประสิทธิภาพ ผู้รับสารจะต้องมีประสิทธิภาพในการรับรู้มีเจตคติที่ดีต่อข้อมูลข่าวสารต่อผู้ส่งสารและต่อตนเอง

 

แผนภาพ  แสดงรูปแบบจำลอง SMCR ของเบอร์โล

ปี 1960 แบบจำลอง SMCR ของเบอร์โล (Berlo) ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งต่าง ๆ คือ

1) ผู้ส่งสาร (Source) ต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถเข้ารหัส (Encode) เนื้อหาข่าวสารได้มีความรู้อย่างดีในข้อมูลที่จะส่งสามารถปรับระดับให้เหมาะสมสอดคล้องกับผู้รับ

2) ข่าวสาร (Message) คือ  เนื้อหา สัญลักษณ์ และวิธีการส่ง

3) ช่องทางการสื่อสาร(Channel) ให้ผู้รับได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง   5

4) ผู้รับสาร (Receiver) ผู้ที่มีความสามารถในการถอดรหัส (Decode) สารที่รับมาได้อย่างถูกต้อง

แบบจำลอง SMCR ของเบอร์โล จะให้ความสำคัญในปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลทำให้การสื่อสารประสบผลสำเร็จ  ได้แก่ ทักษะในการสื่อสาร ทัศนคติ ระดับความรู้ ระบบสังคมและวัฒนธรรม ซึ่งผู้รับละผู้ส่งต้องมีตรงกันเสมอ

  1. ทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์ (Maslow’s hierarchy of needs theory)

เป็นทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์  ซึ่งกำหนดโดยนักจิตวิทยา  ชื่อ มาสโลว์ (Abraham  Maslow)  เป็นทฤษฎีการจูงใจที่มีการกล่าวขวัญอย่างแพร่หลาย มาสโลว์ มองว่าความต้องการของมนุษย์มีลักษณะเป็นลำดับขั้น  จากระดับต่ำสุดไปยังระดับสูงสุด  เมื่อความต้องการในระดับหนึ่งได้รับการตอบสนองแล้ว  มนุษย์ก็จะมีความต้องการอื่นในระดับที่สูงขึ้นต่อไป

 

 

ความต้องการความสำเร็จในชีวิต

(Self- actualization) ——————————————-  5

ความภาคภูมิใจในตนเอง                     

(Esteem  Needs) ——————————————————-   4

ความต้องการทางสังคม     

(Social  Needs)—————————————————————-     3

ความต้องการความปลอดภัยและความมั่นคง                   

( Security or Safety Needs )———————————————————    2

ความต้องการทางร่างกาย                                                               

( Physiological  Needs )———————————————————————–    1

แผนภูมิภาพของ   5  hierarchy of needs

 

  1. ความต้องการทางร่างกาย (Physiological needs)  เป็นความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์เพื่อความอยู่รอด  เช่น  อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย  ยารักษาโรค อากาศ น้ำดื่ม การพักผ่อน เป็นต้น
  2.   ความต้องการความปลอดภัยและมั่นคง (Security or safety needs)  เมื่อมนุษย์สามารถตอบสนองความต้องการทางร่างกายได้แล้ว  มนุษย์ก็จะเพิ่มความต้องการในระดับที่สูงขึ้นต่อไป  เช่น  ความต้องการความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน  ความต้องการความมั่นคงในชีวิตและหน้าที่การงาน

3.ความต้องการความผูกพันหรือการยอมรับ (ความต้องการทางสังคม) (Social  Needs) เป็นความต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม  ซึ่งเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของมนุษย์ เช่น ความต้องการให้และได้รับซึ่งความรัก  ความต้องการเป็นส่วนหนึ่งของหมู่คณะ ความต้องการได้รับการยอมรับ  การต้องการได้รับความชื่นชมจากผู้อื่น  เป็นต้น

  1. ความต้องการการยกย่อง (Esteem needs) หรือ ความภาคภูมิใจในตนเอง  เป็นความต้องการการได้รับการยกย่อง นับถือ และสถานะจากสังคม  เช่น ความต้องการได้รับความเคารพนับถือ  ความต้องการมีความรู้ความสามารถ  เป็นต้น
  2. ความต้องการความสำเร็จในชีวิต (Self- actualization) เป็นความต้องการสูงสุดของแต่ละบุคคล เช่น ความต้องการที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างได้สำเร็จ  ความต้องการทำทุกอย่างเพื่อตอบสนองความต้องการของตนเอง  เป็นต้น

จากทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์  สามารถแบ่งความต้องการออกได้เป็น 2 ระดับ คือ

1.ความต้องการในระดับต่ำ (Lower  order needs)  ประกอบด้วยความต้องการทางร่างกาย, ความต้องการความปลอดภัยและมั่นคง และความต้องการความผูกพันหรือการยอมรับ

2.ความต้องการในระดับสูง (Higher order needs)  ประกอบด้วย  ความต้องการการยกย่องและความต้องการความสำเร็จในชีวิต

Maslow เชื่อว่าพฤติกรรมของมนุษย์ เป็นจำนวนมากสามารถอธิบายโดยใช้แนวโน้มของบุคคลในการค้นหาเป้าหมายที่จะทำให้ชีวิตของเขาได้รับความต้องการ ความปรารถนา และ   ได้รับสิ่งที่มีความหมายต่อตนเอง เป็นความจริงที่จะกล่าวว่ากระบวนการของแรงจูงใจเป็นหัวใจของทฤษฎีบุคลิกภาพของ Maslow โดยเขาเชื่อว่ามนุษย์เป็น  “ สัตว์ที่มีความต้องการ ”        (wanting animal) และเป็นการยากที่มนุษย์จะไปถึงขั้นของความพึงพอใจอย่างสมบูรณ์ ในทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของ Maslow        เมื่อบุคคลปรารถนาที่จะได้รับความพึงพอใจและเมื่อบุคคลได้รับความพึงพอใจในสิ่งหนึ่งแล้วก็จะ        ยังคงเรียกร้องความพึงพอใจสิ่งอื่นๆ ต่อไป ซึ่งถือเป็นคุณลักษณะของมนุษย์ซึ่งเป็นผู้ที่มีความต้องการจะได้รับสิ่งต่างๆอยู่เสมอ
Maslow กล่าวว่าความปรารถนาของมนุษย์นั้นติดตัวมาแต่กำเนิด     และความปรารถนาเหล่านี้จะเรียงลำดับขั้นของความปรารถนา ตั้งแต่ขั้นแรกไปสู่ความปรารถนาขั้นสูงขึ้นไปเป็นลำดับ                                       ความต้องการที่จะเข้าใจตนเองอย่างแท้จริงจะดำเนินไปอย่างง่าย           หรือเป็นไปโดยอัตโนมัติ โดยความเป็นจริงแล้ว Maslow เชื่อว่าคนเรามักจะกลัวตัวเองในสิ่งเหล่านี้    “  ด้านที่ดีที่สุดของเรา ความสามารถพิเศษของเราสิ่งที่ดีงามที่สุดของเราพลังความสามารถความคิดสร้างสรรค์  ”     Maslow (1962:58)
ความต้องการเข้าใจตนเองอย่างแท้จริงมิได้มีแต่เฉพาะในศิลปินเท่านั้น คนทั่วๆ ไป เช่น นักกีฬา นักเรียน หรือแม้แต่กรรมกร ก็สามารถจะมีความเข้าใจตนเองอย่างแท้จริงได้ถ้าทุกคนสามารถทำในสิ่งที่ตนต้องการให้ดีที่สุด  รูปแบบเฉพาะของการเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง       จะมีความแตกต่างอย่างกว้างขวางจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง กล่าวได้ว่ามันคือระดับความต้องการที่แสดงความแตกต่างระหว่างบุคคลอย่างยิ่งใหญ่ที่สุด
Maslow ได้ยกตัวอย่างของความต้องการเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง   ในกรณีของนักศึกษาชื่อ Mark ซึ่งเขาได้ศึกษาวิชาบุคลิกภาพเป็นระยะเวลายาวนาน       เพื่อเตรียมตัวเป็นนักจิตวิทยาคลีนิก นักทฤษฎีคนอื่นๆ อาจจะอธิบายว่าทำไมเขาจึงเลือกอาชีพนี้ ตัวอย่าง เช่น Freud อาจกล่าวว่ามันสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับสิ่งที่เขาเก็บกด ความอยากรู้อยากเห็นในเรื่องเพศไว้ตั้งแต่วัยเด็ก ขณะที่ Adler อาจมองว่ามันเป็นความพยายามเพื่อชดเชยความรู้สึกด้อยบางอย่างในวัยเด็ก Skinner อาจมองว่า          เป็นผลจากการถูกวางเงื่อนไขของชีวิตในอดีต ขณะที่ Bandura สัมพันธ์เรื่องนี้กับตัวแปรต่างๆ ทางการเรียนรู้     ทางสังคม และ Kelly อาจพิจารณาว่า Mark กำลังจะพุ่งตรงไปเพื่อที่จะเป็นบุคคลที่เขาต้องการจะเป็นตัวอย่าง  ที่แสดงถึง การมุ่งตรงไปสู่เป้าประสงค์ในอาชีพโดยความต้องการที่จะเข้าใจตนเองอย่างแท้จริงและ     ถ้าจะพิจารณากรณีของ Mark ให้ลึกซึ่งยิ่งขึ้น ถ้า       Mark     ได้ผ่านการเรียนวิชาจิตวิทยาจนครบหลักสูตร และได้เขียนวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกและในที่สุด      ก็ได้รับปริญญาเอกทางจิตวิทยาคลีนิก สิ่งที่จะต้องวิเคราะห์ Mark    ต่อไปก็คือ เมื่อเขาสำเร็จการศึกษาดังกล่าวแล้วถ้ามีบุคคลหนึ่ง       ได้เสนองานให้เขาในตำแหน่งตำรวจสืบสวน ซึ่งงานในหน้าที่นี้ จะได้รับค่าตอบแทนอย่างสูงและได้รับผลประโยชน์พิเศษหลายๆอย่าง ตลอดจนรับประกันการว่าจ้างและความมั่นคงสำหรับชีวิต            เมื่อประสบเหตุการณ์เช่นนี้ Mark จะทำอย่างไร ถ้าคำตอบของเขาคือ “  ตกลง ”      เขาก็จะย้อนกลับมาสู่ความต้องการระดับที่ 2 คือความต้องการความปลอดภัย สำหรับการวิเคราะห์ความเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง      Maslow กล่าวว่า  “    อะไรที่มนุษย์สามารถจะเป็นได้เขาจะต้องเป็นในสิ่งนั้น  ”   เรื่องของ Mark เป็นตัวอย่างง่ายๆ ว่า ถ้าเขาตกลงเป็นตำรวจสืบสวน เขาก็จะไม่มีโอกาสที่จะเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง
ทำไมทุกๆ คนจึงไม่สัมฤทธิผลในการเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง ( Why Can’t All People Achieve Self-Actualization)        ตามความคิดของ  Maslow ส่วนมากมนุษย์แม้จะไม่ใช่ทั้งหมดที่ต้องการแสวงหาเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ภายในตน    จากงานวิจัยของเขาทำให้  Maslow สรุปว่าการรู้ถึงศักยภาพของตนนั้นมาจากพลังตามธรรมชาติและจากความจำเป็นบังคับ      ส่วนบุคคลที่มีพรสวรรค์มีจำนวนน้อยมากเพียง 1% ของประชากรที่ Maslow ประมาณ Maslow เชื่อว่าการนำศักยภาพของตนออกมาใช้เป็นสิ่งที่ยากมาก บุคคลมักไม่รู้ว่า ตนเองมีความสามารถและไม่ทราบว่าศักยภาพนั้น          จะได้รับการส่งเสริมได้อย่างไร มนุษย์ส่วนใหญ่ยังคงไม่มั่นใจในตัวเอง     หรือไม่มั่นใจในความสามารถของตน     จึงทำให้หมดโอกาสเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง   และยังมีสิ่งแวดล้อมทางสังคมที่มาบดบังพัฒนาการ          ทางด้านความต้องการของบุคคลดังนี้
อิทธิพลของวัฒนธรรม ตัวอย่างหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่าอิทธิพลของสังคมมีต่อการเข้าใจตนเอง คือแบบพิมพ์ของวัฒนธรรม      (cultural stereotype) ซึ่งกำหนดว่าลักษณะเช่นไรที่แสดงความเป็นชาย (masculine) และลักษณะใดที่ไม่ใช่ความเป็นชาย เช่น จัดพฤติกรรมต่างๆ เหล่านี้ ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ความเมตตากรุณา ความสุภาพและความอ่อนโยน     สิ่งเหล่านี้วัฒนธรรมมีแนวโน้ม ที่จะพิจารณาว่า “ไม่ใช่ลักษณะของความเป็นชาย” (unmasculine) หรือความเชื่อถือของวัฒนธรรมด้านอื่นๆ   ซึ่งเป็นความเชื่อที่ไม่มีคุณค่า เช่น ยึดถือว่าบทบาทของผู้หญิง    ขึ้นอยู่กับจิตวิทยาพัฒนาการของผู้หญิง เป็นต้น     การพิจารณาจากเกณฑ์ต่างๆ     ดังกล่าวนี้เป็นเพียงการเข้าใจ  “ สภาพการณ์ที่ดี ”    มากกว่าเป็นเกณฑ์ของการเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง
                ประการสุดท้าย Maslow ได้สรุปว่าการไม่เข้าใจตนเองอย่างแท้จริงเกิดจากความพยายามที่ไม่ถูกต้องของการแสวงหาความมั่นคงปลอดภัย   เช่น    การที่บุคคลสร้างความรู้สึกให้ผู้อื่นเกิดความพึงพอใจตนโดยพยายามหลีกเลี่ยงหรือขจัดข้อผิดพลาดต่างๆ     ของตน บุคคลเช่นนี้จึงมีแนวโน้มที่จะพิทักษ์ความมั่นคงปลอดภัยของตน โดยแสดงพฤติกรรมในอดีตที่เคยประสบผลสำเร็จ แสวงหาความอบอุ่น และสร้างมนุษย์สัมพันธ์กับผู้อื่น ซึ่งลักษณะเช่นนี้ย่อมขัดขวางวิถีทางที่จะเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง

สรุป กลุ่มฯ เบาะแส คือ องค์การปราบคอร์รัปชั่นและช่วยเหลือผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในสังคม ในส่วนที่ภาครัฐไม่สามารถช่วยเหลือได้ เนื่องจากมีปัญหาด้านระบบอุปถัมภ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งการช่วยเหลือผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น องค์การเบาะแส จะใช้ นวัตกรรมการสื่อสาร , กฎหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้อง และพลังมวลชน ผสมผสานในการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นหน้าที่ของพลเมืองในประเทศนั้นๆควรกระทำ.

เอกสารอ้างอิง

ทองใบ  สุดชารี.  (2542).  วิเคราะห์แนวความคิด ทฤษฎี และการประยุกต์.  พิมพ์ครั้งที่ 2.  อุบลราชธานี :

สถาบันราชภัฏอุบลราชธานี.

ธิติภพ  ชยธวัช.  (2548).  แม่ไม้บริหาร.   กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ ซี.พี. บุ๊ค แสตนดาร์ด.

นรินทร์ชัย  พัฒนพงศา.  (2542).  การสื่อสารรณรงค์เชิงยุทธศาสตร์เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมนุษย์เน้นการ

เจาะจงกลุ่ม. เชียงใหม่ : สำนักพิมพ์รั้วเขียว.

นิตยา  เงินประเสริฐศรี.  (2544).  ทฤษฎีองค์การ : แนวการศึกษาเชิงบูรณาการ.  กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัย

เกษตรศาสตร์.

พัชรี เชยจรรยา และคนอื่น ๆ.  (2541).  แนวคิดหลักนิเทศศาสตร์.  กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ข้าวฟ่าง.

ระวีวรรณ  ประกอบผล.  (2540).  “องค์ประกอบและกระบวนการของการสื่อสาร” ใน เอกสารการสอน

ชุดวิชา หลักและทฤษฎีการสื่อสาร หน่วยที่ 1 – 8.  หน้า 134 – 140. พิมพ์ครั้งที่ 13. นนทบุรี :

มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช.

ราชบัณฑิตยสถาน.  (2539).  พจนานุกรม พ.ศ. 2525.  พิมพ์ครั้งที่ 6.  กรุงเทพฯ : อักษรเจริญทัศน์.

วันชัย  มีชาติ.  (2548).  พฤติกรรมการบริหารองค์การสาธารณะ กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

วิรัช  สงวนวงศ์วาน.  (2547).  การจัดการและพฤติกรรมองค์การ.  พิมพ์ครั้งที่ 2.  กรุงเทพฯ : เพียร์สัน

เอ็ดดูเคชั่น อินโดไชน่า.

วิโรจน์  โสวัณณะ.  (2545).  คู่มือสู่ความสำเร็จอันไร้ขอบเขต.  กรุงเทพฯ : สำนักงานนิตยสารโลกทิพย์.

เสนาะ  ติเยาว์.  (2538).  การสื่อสารในองค์การ.  พิมพ์ครั้งที่ 3.  กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

โอภส์  แก้วจำปา.  (2547).  ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารธุรกิจ.   กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์.

กิดานันท์ มลิทอง 2536. เทคโนโลยีการศึกษาร่วมสมัย พิมพ์ครั้งที่ 2 กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ไพโรจน์ เบาใจ 2539. แนวโน้มของเทคโนโลยีการศึกษาในอนาคต, เทคโนโลยีการศึกษา.

สมาคมการศึกษาแห่งประเทศไทย ไทยรายวันการพิมพ์.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. 2542 พระราชบัญญัติการศึกษา 2542.กรุงเทพมหานคร.

อรพรรณ พรสีมา 2530. เทคโนโลยีทางการสอน. โอ.เอส.พริ้นติ้งเฮาส์.

Association for Educational Comminations and Tecolog (AECT). Educational Technology:

A Glossary of Terms. Washington D.C.: Association for Educational Communications and Technology,1977.

Banathy, B.H. Instructional System. Belmont, California: Fearow Publishers, 1968.

Brown. James W.; Lewis, Richard B.;and Harcleroad, Fred F. AV Instruction : Technology , Media. And Methods . 6   th ed. New York : McGraw – Hill Book Company, 1985

Dale, Edgar. Audio – Visual Methods in Teaching. 3 rd ed. New York: Holt, Rinehart and Winstion, 1969.

De Kieffer, Robert E. Audio – Visual Instruction. New York : The center for Applied Research in Education, Inc., 1965.

Ely, Donald P., ed. ” The Field of Educational Technology :

A Statement of Definition,” Audiovisual Instruction. (October 1972 ),36-43.

Gagne, Robert M. and Briggs, Leslie J. Principles of Instructional Design. New York :

Holt, Rinehart and Winston 1974.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*

Scroll To Top