Headlines

Policy Brief โมเดลการสื่อสารเชิงสืบสวนแบบ 3C1D เพื่อความไว้วางใจของสาธารณะในสังคมดิจิทัล

Policy Brief

โมเดลการสื่อสารเชิงสืบสวนแบบ 3C1D เพื่อความไว้วางใจของสาธารณะในสังคมดิจิทัล

หน่วยงานเสนอ: Borsae Foundation Institute (BFI)
กลุ่มเป้าหมาย: ผู้กำหนดนโยบาย หน่วยงานรัฐ สื่อมวลชน องค์กรอิสระ และภาคประชาสังคม
ประเด็นนโยบาย: ความน่าเชื่อถือของข้อมูล การสื่อสารสาธารณะ และธรรมาภิบาลในยุคดิจิทัล


1. Executive Summary

ในยุคสังคมดิจิทัล ความขัดแย้งทางข้อมูล ข่าวปลอม และการตั้งคำถามต่อความน่าเชื่อถือของผู้มีอำนาจ ได้กลายเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่บ่อนทำลายความไว้วางใจของสาธารณะ Policy Brief ฉบับนี้นำเสนอ โมเดลการสื่อสารเชิงสืบสวนแบบ 3C1D ซึ่งเป็นกรอบแนวคิดสหวิทยาการที่ผสานมิติด้านการสื่อสาร สังคมศาสตร์ และกฎหมาย เพื่อใช้เป็นแนวทางเชิงนโยบายสำหรับการสื่อสารข้อมูลสาธารณะอย่างมีความรับผิดชอบ โปร่งใส และยั่งยืน


2. ปัญหาเชิงนโยบาย (Policy Problem)

ปัจจุบัน การสื่อสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ การเปิดโปง หรือการกำหนดนโยบายสาธารณะ มักประสบปัญหาอย่างน้อย 3 ประการ ได้แก่
(1) การขาดบริบทที่เพียงพอ ทำให้ข้อมูลถูกตีความคลาดเคลื่อน
(2) ความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูลและกระบวนการตรวจสอบถูกตั้งคำถาม
(3) การเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ประเมินผลกระทบ อาจก่อให้เกิดความเสียหายทางสังคมและกฎหมาย

ปัญหาเหล่านี้สะท้อนว่าการสื่อสารสาธารณะยังขาดกรอบเชิงนโยบายที่บูรณาการมิติด้านจริยธรรม ความรับผิด และธรรมาภิบาลอย่างเป็นระบบ


3. ข้อเสนอเชิงนโยบาย: โมเดล 3C1D

โมเดล 3C1D ประกอบด้วยองค์ประกอบ 4 ประการที่ควรถูกบูรณาการเป็นมาตรฐานการสื่อสารสาธารณะ ได้แก่

  • Context (บริบท): ผู้สื่อสารและหน่วยงานรัฐต้องอธิบายบริบททางสังคม กฎหมาย และสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลอย่างครบถ้วน
  • Credibility (ความน่าเชื่อถือ): ต้องมีระบบตรวจสอบข้อเท็จจริง แหล่งที่มา และความรับผิดชอบของผู้สื่อสารอย่างชัดเจน
  • Consequence (ผลกระทบ): การสื่อสารเชิงนโยบายควรประเมินผลกระทบต่อสิทธิ เสรีภาพ และความสงบเรียบร้อยของสังคม
  • Disclosure (การเปิดเผย): การเปิดเผยข้อมูลต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส มีจริยธรรม และสอดคล้องกับหลักกฎหมายและประโยชน์สาธารณะ

4. แนวทางการนำไปใช้ (Policy Implementation)

Policy Brief นี้เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำโมเดล 3C1D ไปใช้ในระดับปฏิบัติ ดังนี้

  1. ระดับนโยบาย: บรรจุหลัก 3C1D เป็นแนวปฏิบัติในการสื่อสารข้อมูลสาธารณะของหน่วยงานรัฐและองค์กรอิสระ
  2. ระดับองค์กร: พัฒนาแนวทางหรือคู่มือการสื่อสารภายในที่อ้างอิงโมเดล 3C1D
  3. ระดับบุคลากร: ส่งเสริมการอบรมสื่อมวลชน ข้าราชการ และผู้บริหารด้านการสื่อสารเชิงสืบสวนอย่างมีความรับผิดชอบ

5. ผลลัพธ์ที่คาดหวัง (Expected Outcomes)

การนำโมเดล 3C1D ไปใช้ในเชิงนโยบายคาดว่าจะก่อให้เกิดผลลัพธ์สำคัญ ได้แก่

  • การเพิ่มความไว้วางใจของสาธารณะต่อหน่วยงานรัฐและสื่อมวลชน
  • การลดความขัดแย้งทางสังคมจากการตีความข้อมูลที่แตกต่าง
  • การเสริมสร้างธรรมาภิบาล ความโปร่งใส และความชอบธรรมของกระบวนการกำหนดนโยบาย

6. ข้อเสนอเชิงกลยุทธ์ (Strategic Implications)

โมเดล 3C1D ไม่เพียงเป็นเครื่องมือด้านการสื่อสาร แต่ยังสามารถใช้เป็นกรอบกำกับเชิงจริยธรรม (Ethical Governance Framework) สำหรับการตรวจสอบผู้มีอำนาจ การกำหนดนโยบาย และการสื่อสารในภาวะวิกฤต ซึ่งสอดคล้องกับหลักประชาธิปไตยและนิติรัฐในสังคมดิจิทัล


7. ข้อสรุปเชิงนโยบาย

Policy Brief ฉบับนี้เสนอให้หน่วยงานรัฐ สื่อมวลชน และภาคประชาสังคม นำโมเดลการสื่อสารเชิงสืบสวนแบบ 3C1D ไปใช้เป็นกรอบมาตรฐานในการสื่อสารข้อมูลสาธารณะ เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความไว้วางใจของสังคม อันเป็นรากฐานสำคัญของธรรมาภิบาลและการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน


เอกสารอ้างอิง (APA)

ธีรยุทธ บุญมี. (2562). สังคมกับอำนาจการสื่อสาร. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สุภางค์ จันทวานิช. (2561). การวิจัยเชิงคุณภาพทางสังคมศาสตร์. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ชาญวิทย์ เกษตรศิริ. (2563). ความรู้ อำนาจ และการเมืองของการสื่อสาร. วารสารสังคมศาสตร์, 32(2), 1–20.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *